ภาษา

บทที่ 1

พวกเรามีข่าวดี พระเจ้าสัญญาว่าจะรักและให้อภัยเรา ประทานชีวิตที่ไม่มีวันสิ้นสุด อิสรภาพจากความชั่วร้าย และมิตรภาพอันใกล้ชิดกับพระองค์ตราบเท่าที่เราวางใจและเชื่อฟังพระองค์ด้วยความรัก

คุณเชื่อเรื่องนี้หรือไม่ คุณรู้หรือไม่ว่าเรื่องนี้มีความหมายต่อคุณอย่างไร

พระคัมภีร์บอกว่าพวกเราเกิดมาเพื่อรัก เชื่อฟัง และชื่นชมยินดีในพระเจ้าตลอดไป[2] แต่เราทำไม่ได้[3]

ทำไมล่ะ

เพราะเมื่อพวกเราเกิดมา เราได้ถูกแยกจากพระองค์ในสองประการดังนี้

ประการแรก เราไม่รู้จักพระองค์ และเรารักคนที่เราไม่รู้จักไม่ได้

ประการที่สอง เราเกิดมาพร้อมกับความปรารถนาชั่ว ซึ่งสิ่งนี้แยกเราออกจากชีวิต ความรู้ และความรักของพระเจ้า ความปรารถนาชั่วของเราเป็นสาเหตุของความตาย ความเจ็บป่วย ความอยุติธรรม สงคราม—ความโศกเศร้าทั้งหมดของชีวิต

ความปรารถนาชั่วของเราแยกเราจากพระเจ้าได้อย่างไร

แก่นแท้ของความชั่วร้ายคือความเห็นแก่ตัวซึ่งเป็นอันตรายต่อความสัมพันธ์ เมื่อผู้ชายใกล้ชิดกับภรรยามากขึ้น เขาจะตระหนักได้ง่ายขึ้นว่าคำพูด การกระทำ และความคิดของเขาทำให้ภรรยาไม่พอใจได้อย่างไร ความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้าก็เป็นเช่นนั้น ยิ่งเราใกล้ชิดกับพระเจ้ามากเท่าไร เราก็ยิ่งเข้าใจว่าความชั่วร้ายของเราทำลายความใกล้ชิดกับพระองค์มากขึ้นเท่านั้น

พระเจ้าทรงตอบสนองอย่างไรเมื่อเราแยกไปจากพระองค์

พระเจ้าเลือกที่จะมาเป็นมนุษย์เพื่อนำเรากลับมาใกล้ชิดพระองค์อีกครั้ง มนุษย์คนนั้นคือพระเยซู

ทำไมการที่พระเจ้ามาเป็น มนุษย์ จึงสำคัญ

ประการแรก คือเพื่อสัมพันธ์กับเราเป็นการส่วนตัว ประการที่สอง เพื่อสัมผัสความสุข ความเจ็บปวด และการดิ้นรนของเรา ประการที่สาม เพื่อรับโทษความชั่วของเราด้วยการตายแทนเรา และประการสี่ เพื่อฟื้นจากความตายเพื่อชำระความชั่วร้ายของเราไป ซึ่งทำให้เรากลับมาสนิทสนมกับได้พระองค์ได้อีกครั้ง และทำให้เรามีชีวิตที่ไม่สิ้นสุด

การที่พระเยซูทรงเลือกที่จะสิ้นพระชนม์เพื่อเรานั้น เป็นส่วนหนึ่งที่พิสูจน์ว่าพระเจ้าทรงลงโทษความชั่ว เราคงไม่ต้องการพระเจ้าที่ไม่ลงโทษความชั่วร้าย การสิ้นพระชนม์ของพระเยซูเป็นการรับประกันว่าพระเจ้าจะไม่ปล่อยความชั่วร้ายให้ลอยนวล เพราะพระองค์เลือกที่จะลงโทษตัวเองสำหรับความชั่วร้ายของเรา แม้ว่าพระองค์จะไม่เคยทำอะไรผิดเลยก็ตาม

จุดประสงค์ที่ยิ่งใหญ่กว่าของพระองค์ คือปลดปล่อยเราจากความปรารถนาชั่วร้ายและเปลี่ยนใจของเราเพื่อที่เราจะได้มีชีวิตอยู่ในมิตรภาพอันบริสุทธิ์กับพระองค์ นี่คือสิ่งที่พระคัมภีร์ เรียกว่า "บังเกิดใหม่" ซึ่งหมายถึงการเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง ทั้งชีวิตที่เป็นอิสระจากการเป็นทาสของความปรารถนาอันชั่วร้ายของเรา เมื่ออยู่ในความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระเจ้า

นั่นหมายความว่าข่าวดีไม่ได้หยุดแค่การที่พระเยซูทรงรับโทษของบาปแทนเรา

พระคัมภีร์กล่าวว่าหลังจากที่พระเยซูสิ้นพระชนม์ พระองค์ทรงฟื้นจากความตายและยังมีชีวิตอยู่ พระองค์ทรงเสนอที่จะแลกชีวิตกับเรา: ชีวิตที่สมบูรณ์แบบของพระองค์แลกกับชีวิตที่แตกสลายของเรา เมื่อเรายอมรับข้อเสนออันเหลือเชื่อนี้ พระวิญญาณของพระองค์เริ่มสถิตอยู่ในเรา และค่อยๆ แทนที่ความปรารถนาชั่วร้ายของเราด้วยความปรารถนาต่อความดีของพระองค์ที่เพิ่มมากขึ้น

กระบวนการที่เราได้รับการทำความสะอาดและทำให้สมบูรณ์แบบเรียกว่า การชำระให้บริสุทธิ์เราจะยังไม่ได้สมบูรณ์แบบจนกว่าชีวิตนี้จะสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตาม เราสามารถเห็นผลของกระบวนการนี้ได้ทันที

ผลเหล่านั้นเรียกว่าผลของพระวิญญาณ: ความรัก ความยินดี สันติสุข ความอดทน ความกรุณา ความดี ความอ่อนโยน ความซื่อสัตย์ และการควบคุมตนเอง ถ้าเราเป็นคริสเตียน เราจะมีคุณลักษณะเหล่านี้มากขึ้นเรื่อยๆ หากเรายังไม่เป็นเช่นนั้น ก็ถึงเวลายอมจำนนต่อพระเจ้าและใกล้ชิดพระองค์มากขึ้นผ่านการอ่านพระคัมภีร์ การหันหลังให้กับความชั่วร้าย การอธิษฐาน และ นมัสการพระองค์

เราทำให้ผลของพระวิญญาณเติบโตไม่ได้ มีเพียงพระวิญญาณบริสุทธิ์เท่านั้นที่สามารถทำได้เมื่อเราแสดงความรักต่อพระคริสต์

พระคัมภีร์บอกว่าเราต้องแบกกางเขนของเราและติดตามพระเยซู ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความตายจากความเห็นแก่ตัวของเรา เช่นเดียวกับที่พระเยซูทรงแบกไม้กางเขน (เครื่องมือทรมาน!) และสิ้นพระชนม์บนนั้น เราต้องทำแบบเดียวกันนี้ในเชิงสัญลักษณ์ผ่านความตายจากความเห็นแก่ตัวของเรา

สิ่งนี้สำคัญอย่างไร เพราะความปรารถนาที่เห็นแก่ตัวของเราขัดกับความปรารถนาของพระเจ้า พระเยซูทรงต้องการให้เรายอมจำนนและไว้วางใจอย่างสุดหัวใจ พระองค์ขอให้เราแลกความปรารถนาที่เห็นแก่ตัวของเรากับความปรารถนาเพื่อพระเจ้า นี่คือการแสดงความรักของเราผ่านการรับใช้พระเจ้าและประชากรของพระองค์ด้วยความถ่อมใจ

เมื่อเรายอมจำนนและเลือกพระเจ้าเป็นผู้เดียวที่เติมใจเรา พระองค์จะประทานความเข้มแข็งและความปรารถนาที่จะเชื่อฟังพระองค์แก่เรา ให้พระองค์เป็นดั่งอากาศที่เราหายใจ หายใจเข้าในพระเยซู หายใจออกในพระเยซู ทำซ้ำ ทุกวัน จวบจนวันที่เราตาย ซึ่งทำให้เรากล้าที่จะวางใจว่า เมื่อพระองค์ทรงบัญชาให้เราปฏิบัติต่อศัตรูด้วยความรัก พระองค์ก็จะทรงช่วยให้เราด้วย

ระหว่างเรากับพระเยซูคือความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันได้มากที่สุด เพราะพระวิญญาณของพระองค์อยู่ภายในเรา ความสัมพันธ์นี้จะเปลี่ยนชีวิตของคุณเมื่อคุณวางใจและเชื่อฟังพระเจ้าด้วยความรัก จากนั้นเมื่อคุณทำผิดพลาด พระองค์จะทรงช่วยให้คุณถวายเกียรติแด่พระเจ้า

คุณอาจสงสัยว่าชีวิตแบบนี้จะทำให้คุณสนุกกับชีวิตตามปกติไม่ได้ พวกเราดีใจที่จะบอกว่า ความรักและการเชื่อฟังพระเจ้าช่วยให้ชีวิตเราได้รับสันติสุขและความสุขของพระเจ้า

แม้ในชีวิตนี้เราจะไม่เคยเป็นอิสระอย่างสมบูรณ์จากความปรารถนาที่ชั่วร้าย และเรายังคงทำผิดพลาด แต่ความรักที่เรามีต่อพระเยซูไปดับความปรารถนาชั่วของเรา ดังนั้นความปรารถนาชั่วเหล่านั้นจึงฝ่อไป พระเจ้าทรงทำเช่นนี้เพื่อให้เรามีอิสระที่จะชื่นชมยินดีกับพระองค์ กับโลก และกับความสัมพันธ์ที่พระองค์ประทานแก่เราในความบริสุทธิ์

พระสัญญาที่เหลือเชื่อสำหรับพวกเราส่วนใหญ่คือพระเจ้าเปลี่ยนความปรารถนาของเราได้ พระองค์ทำเช่นนั้น มันเป็นเรื่องจริง ไม่เช่นนั้นข่าวดีก็ไม่ใช่ข่าวดีน่ะสิ

ทำไมคริสเตียนหลายคนยังไม่มีชีวิตที่ดี

คริสเตียนทุกคน สามารถ ใช้ชีวิตโดยปราศจากความชั่วร้าย แต่บางครั้งเราไม่ทำแบบนั้นเอง บางครั้งเราเลือกความชั่วร้ายแทนที่จะเลือกพระเยซู แม้ว่าเราจะเป็นคริสเตียนแล้วก็ตาม

บางคนไม่ได้รับอิสรภาพจากความชั่วร้ายเพราะพวกเขาไม่เชื่อว่าเป็นไปได้หรือไม่เชื่อว่าพระเจ้ามอบให้ บางคนปฏิเสธการใช้ชีวิตที่ปราศจากความชั่วร้ายเพราะว่าพวกเขาต้องยอมแลกกับหลายสิ่งในชีวิต เพราะต้องยอมจำนนทั้งหมดต่อพระเจ้าอย่างต่อไป

หมายความว่าอย่างไร

หลังจากยอมจำนนต่อพระเจ้าแล้ว เรายังต้องยอมจำนนต่อไป ซึ่งต้องเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะเราทุกคนมักจะกลับไปสู่ความเห็นแก่ตัว พระคัมภีร์เรียกแนวโน้มนี้ว่าธรรมชาติบาป ซึ่งเรามีมาตั้งแต่เกิดจนวันตาย[38]

เมื่อเราเชื่อและวางใจพระเจ้า หันจากความชั่วร้าย อธิษฐาน นมัสการ อ่านพระคัมภีร์ และมีส่วนร่วมในชุมชนกับคริสเตียนคนอื่นๆ พระวิญญาณของพระคริสต์ภายในเราเริ่มเปลี่ยนความปรารถนาของเรา และประทานอิสรภาพที่ค่อยๆ เอาชนะธรรมชาติบาป

การเติบโตต้องใช้เวลา อย่าเพิ่งหมดหวังในกระบวนการนี้ และอย่าใช้ความช้าของการเติบโตเป็นข้ออ้างที่จะไม่เติบโตเลย

การถวายเกียรติแด่พระเจ้านำมาซึ่งความสุขและสันติสุขที่ยั่งยืนอย่างไม่มีสิ่งใดในโลกนี้เทียบได้ เราไม่ได้หันจากความชั่วเพียงเพราะว่าความชั่วนั้นไม่ดี เราหันจากความชั่วร้ายเพื่อจะเป็นที่พอใจของพระเจ้า

พระเจ้าทรงเรียกเราให้ร่วมทำงานกับพระองค์เพื่อพระสิริของพระองค์ หลังจากที่ยอมจำนนต่อพระองค์ พระองค์ทรงดลใจให้เราแบ่งปันมิตรภาพที่สวยงามนี้กับผู้อื่น ซึ่งเรียกว่าการประกาศข่าวประเสริฐ และสอนวิธีมีประสบการณ์นี้ ซึ่งเรียกว่าการเป็นสาวก

สิ่งที่พระองค์ประทานให้เรานั้นดีมากจนเมื่อเราประสบแล้ว เราก็ไม่อาจหยุดแบ่งปันเกี่ยวกับพระองค์ได้ เมื่อเราได้ลิ้มรสและเห็นว่าพระเจ้าทรงดี เป็นธรรมดาที่เราจะบอกต่อเพื่อให้คนอื่นๆ รู้สึกถึงอิสรภาพและความชื่นชมยินดีที่เราได้รับ

และนี่ก็คือข่าวดี (ข่าวดีที่สุด!): พระเจ้าสัญญาว่าจะรักและให้อภัยเรา ประทานชีวิตที่ไม่มีวันสิ้นสุด อิสรภาพจากความชั่วร้าย และมิตรภาพอันใกล้ชิดกับพระองค์ตราบเท่าที่เราวางใจและเชื่อฟังพระองค์ด้วยความรัก หากเราซื่อสัตย์ไปจนถึงบั้นปลายของชีวิต พระเจ้าสัญญาว่าจะประทานร่างกายใหม่แก่เรา ซึ่งเป็นร่างกายที่ปราศจากคำสาปแห่งความปรารถนาชั่วร้าย ความตาย และความแตกสลาย เพื่อให้อยู่กับพระองค์ตลอดไป

ข่าวร้ายก็คือทุกคนที่ปฏิเสธข้อเสนอของพระเจ้าจะต้องทนทุกข์กับการลงโทษอันไม่มีที่สิ้นสุดและการแยกจากพระเจ้า ซึ่งเพราะความชั่วร้ายของเรา เราทุกคนจึงได้รับโทษนี้

ข่าวดีของพระเจ้าและข่าวร้ายของสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเราปฏิเสธพระองค์ทำให้พระกิตติคุณเป็นความจริงที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเรา

เราอยู่เพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้าและชื่นชมยินดีในพระองค์ตลอดไป เรามักคิดว่าเราต้องเลือกระหว่างชีวิตที่ทำให้ตัวเองพอใจ กับชีวิตที่ทำให้พระเจ้าพอพระทัย ความจริงก็คือความพอใจจากการยอมตามความปรารถนาชั่วคงอยู่ไม่นานหรอก การหมกมุ่นอยู่กับความชั่วร้ายนำไปสู่ความหดหู่ การไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง และการเสพติดพฤติกรรมที่ชั่วร้ายและบั่นทอน ความชั่วร้ายครอบงำเรา พรากความชื่นชมยินดีไปจากเรา และทิ้งเราให้ว่างเปล่าและโดดเดี่ยว มันทำให้เราตกเป็นทาส

เมื่อเต็มใจเลือกที่จะมองว่าตนเองเป็นผู้รับใช้ต่อความดีงามของพระเจ้าแทนที่จะเป็นทาสของความชั่ว เราก็ได้รับความชื่นชมยินดีและอิสรภาพที่ไม่มีอะไรสามารถพรากไปได้ อันเนื่องมาจากการทรงสถิตของพระเจ้าในชีวิตของเราและของประทานอันยิ่งใหญ่ที่พระองค์ทรงสัญญาไว้กับเราในพระกิตติคุณ

ต้องใช้ทุกสิ่ง การไม่เชื่อฟังของเราแลกกับการอภัยโทษ ชีวิต และความเมตตากรุณาของพระองค์

วิธีที่ง่ายที่สุดที่ช่วยเราให้จำพระกิตติคุณได้ คือผ่านบทเพลงแห่งความรอด:

พระเยซูตายบนไม้กางเขน
ทรงเป็นขึ้นมาเพื่อช่วยคนบาป
โปรดทรงอภัยความบาปของฉัน
โปรดมาเป็นพระผู้ช่วย และเป็นเพื่อนกัน
เปลี่ยนชีวิตเก่าให้กลายเป็นใหม่
โปรดช่วยฉันให้อยู่เพื่อพระองค์

พิจารณาลึกลงไป

อ่านยอห์นบทที่ 17 ซึ่งเป็นบันทึกคำอธิษฐานก่อนพระเยซูสิ้นพระชนม์ ได้ทรงอธิษฐานเผื่อคุณและฉันโดยตรง ลองเขียนรายละเอียดที่คุณสนใจเกี่ยวกับสิ่งที่พระเยซูตรัส จากนั้นอ่านและลองคุยคำถามของคุณกับคริสเตียนคนอื่น คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับที่พระเยซูทรงอธิษฐานเผื่อคุณเป็นการส่วนตัว

ก่อนหน้า รายการ รายการ ต่อไป